8.Man of Steel
ระดับความน่าดู : 5/5
ไม่ว่าจะชื่นชอบในตัว Zack Snyder มากน้อยเพียงใด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นผู้กำกับที่น่าจับตามองมากที่สุด หลังล้มไปกับแก็งค์ชะนีสาว Sucker Punch ทั้งการกลับมาครั้งนี้พร้อมกับฮีโร่บุรุษเหล็กอย่าง Superman ที่ทาง DC หมายหมั้นปั้นให้เป็นว่าที่ภาคต่ออันทรงคุณค่า ผนึกกำลังกับ Christopher Nolan ในฐานะผู้อำนวยการสร้างและจากทิศทางหนังที่เห็นได้จาก Trailer รวมทั้งการโปรโมตคลิบไวรัลต่างๆนั้น ทำให้ Superman เป็นหมัดเด็ดของซัมเมอร์ปีนี้ฟัดกับมนุษย์เตารีดอย่าง Iron Man ของทาง Marvel มากที่สุด
9.Much Ado About Nothing
ระดับความน่าดู : 3/5จะสามารถเรียกว่า 'หนังเฉพาะกลุ่ม' ได้หรือเปล่า เพราะตัวผู้กำกับอย่าง Joss Whedon เพิ่งพีคสุดๆไปกับทีมฮีโร่เอาใจคนดูอย่าง The Avengers คราวนี้ขอมาจับหนังฟอร์มเล็กๆ ด้วยการนำงานเขียนของ วิลเลียม เชกสเปียร์ มาปัดฝุ่นขึ้นจอใหม่ คำชมจากนักวิจารณ์ที่เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า เยี่ยม คงพอการันตีความยอดในที่นี้ได้ หากใครเบื่อๆหนังระเบิดภูเขา เผากระท่อม Much Ado About Nothing คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้
10.Monsters University
ระดับความน่าดู : 3/5
หากเป็นเมื่อสาม สี่ปีก่อนชื่อของ Pixar คงเป็นอะไรที่ใครหลายๆคนไม่ลังเลที่จะเข้าไปอุดหนุน แต่พักหลังคุณภาพของหนังที่ขึ้นๆลงๆ ทำให้หลายคนเริมคิดหนัก และ Monsters, Inc. เคยเป็นหนังอันดับต้นๆที่มีคนรอคอยภาคต่อ แม้ครั้งนี้จะไม่ใช่ภาคต่อโดยตรงแต่ก็น่าจะทหให้ใครหลายๆคนพอใจในระดับหนึ่ง แน่นอนงานด้านภาพที่ได้รับการพัฒนาจนล้ำหน้าค่ายอื่นๆแต่จาก Trailer แล้ว ณ จุดนี้บอกเลยว่ายังธรรมดา สิ่งเดียวที่ทำให้มันยังคงน่าดูคือตัวอักษรคำว่า Pixar เล็กๆใต้โปสเตอร์ // บอกเลยว่าเราเป็นแฟนหนังของ Pixar และชื่อนชอบใน Brave มากและดีใจที่คว้าออสการ์ไปครอง แต่เมื่อได้ยลโฉมผู้ได้เข้าชิงเช่นกันแล้ว กลับมีข้อสงสัยในใจ
11.This Is the End
ระดับความน่าดู : 4/5
ความน่าสนใจในหนังเรื่องนี้คือการที่ดาราทั้งหลายต้องรับบทเป็นตัวเอง(?) หลังงานปาร์ตี้ที่พบว่าเกิดหายนะจากโลก จาก Trailer แล้วบอกว่าน่าดูมากๆ หนังอาจเป็นได้ทั้งมาตรฐานหนังตลก ล้อเลียนแห่งยุค หรืออาจเป็นตัวห่วยหลังออกฉาย แต่แนวโน้มน่าจะเป็นอย่างแรกซะมากกว่า เพราะดูจากเครดิตแล้วถือว่าเชื่อมือได้ แม้จะเป็นการกำกับครั้งแรกของ Evan Goldberg และหนุ่มร่างท้วม Seth Rogen ก็ตาม
12.World War Z
ระดับความน่าดู : 4/5
อาจดึงความสนใจไปที่ตัวหน้าหนังมากกว่านี้ หากไม่มีข่าวฉาวเบื้องหลังออกมาให้อกสั่น ขวัญแขวนเล่น ทั้งจากการที่ Brad Pitt ไม่ลงรอยกับผู้กำกับ Marc Forster เพราะ Brad ต้องการให้หนังมีทิศทางไปในโทนดราม่า ขณะที่ Marc อยากให้เป็นแอ็คชั่น เท่านั้นยังไม่พอในการถ่ายซ่อมปะรูพรุน ท้งคู่แทบไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำและนั่นเป็นเหตุให้หนังต้องเลื่อนจากปลายปีก่อนมาเป็นช่วงซัมเมอร์นี้ ถึงจะเจอมรสุมหนัก จาก Trailer ที่ปล่อยออกมาก็ไม่ได้ขึ้เหร่ ซ้ำยังน่าสนใจในมากเลยทีเดียว แต่อย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้หนังซอมบี้ก็หาความต่างได้ยากมากพอๆกับแวมไพร์ น่ะละ คงต้องรอดูว่าหลังออกฉายแล้วจะเป็นอย่างไร
>continued part 3<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น