5 Centimeter Per Second: ยามซากุระร่วงโรย
“แค่ใช้ชีวิตไปวันๆก็ทำให้เศร้าได้แล้ว”
วันนี้ผมเดินเข้าไปในร้านหนังสือ ด้วยใจที่เหงาสุดเหงา จนได้ไปเจอกับนิยาย 2 เล่ม ซึ่ง ปกสวยๆมากๆ อาร์ต ได้ใจสุดๆ ผมหยิบขึ้นมาดูด้วยใจที่แน่วแน่ ก่อนจะเริ่มต้นอ่านคำโปรยของหนังสือ ซึ่งได้ใจความว่า ดัดแปลงจาก อะนิเมะ และเป็นผลงานของ มาโคโตะ ชินไค (Makot Shinkai) ผมก็เกิดคำถามขึ้นในใจเบาๆว่า คุ้นๆ แหะ เอ๊ะ ใครกัน ผมวางหนังสือทั้ง 2 เล่มนั้นลง แล้วตรงดิ่งกลับบ้าน เพื่อค้นหาคำตอบที่ผุดขึ้น ก่อนจะหา อะนิเมะ เรื่องนี้มาดู ซึ่งใครที่เคยดูแล้วคงทราบดีถึงความงดงามอันแตกต่า งของอะนิเมะชื่อแปลก แฝงความหมายเอาไว้เรื่องนี้
เวลาสัมพันธ์กับความรักไหม ?
คนที่ชอบน้ำแดงจะรักคนที่ชอบน้ำเขียวไหม
คนชอบไปทะเลจะรักคนที่ชอบภูเขาไหม
คนวิ่งเร็วจะรักคนที่วิ่งช้ามองเห็นแต่หลังใครอื่นไหม
คนสองคนรู้จักกัน แต่ต้องห่างกันไกล จะยังรักกันได้นานแค่ไหน
เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้
เราเคยถามครูที่สอนเราตอนมัธยมปีที่สองว่า “ความรักคืออะไร”
“ความรู้สึกดีๆที่คนสองคนมีให้ต่อกัน” ครูเราตอบมา แล้วถ้าใครคนหนึ่งรักคนอีกคนมาก
แต่ใครอีกคนนั้นไม่รู้สึก “รักข้างเดียว” มันไม่ใช่รักแท้อย่างนั้นหรอ
ก็ได้แต่ถามตัวเองในใจ ผ่านมาหลายปีคำถามที่ว่ารักข้างเดียว
ฉันก็ไม่เคยถามใครออกไป เราจะลองเชื่อครูเรา ‘ความรู้สึกดีๆที่คนสองคนมีให้ต่อกัน’
เมื่ออยู่มัธยมศึกษาปีที่ห้า เรื่องบังเอิญบางทำให้เราได้มารู้จักกับ ‘5
Centimeter Per Second’ ก่อนดูเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แต่เมื่อดูจบ บางสิ่งมันยังคงติดอยู่
วันนั้นจนวันนี้ก็นานแล้ว ‘5 Centimeter Per Second’
ยังคงเป็นความทรงจำที่งดงามเคียงคู่ไปกับรักครั้งแรก
“ห้าเซนติเมตรต่อวินาทีเป็นความเร็วของกลีบดอกซากุระตอนร่วง” อาการิบอกกับทากากิในเย็นวันหนึ่งหลังโรงเรียนเลิก
และเขาก็จดจำมันได้ดี
แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกทำให้ทั้งสองต้องห่างกันไกล
อาการิต้องย้ายไปเข้าโรงเรียนมัธยมต้นที่จังหวัดอื่น
อากากิโทรศัพท์มาหาแต่ทากากิไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่มีคำพูด
คำปลอบโยนใดๆในขณะที่เธอร้องไห้ออกมา
ทั้งคู่ติดต่อกันทางจดหมาย ผ่านข้อความบนแผ่นกระดาษ
นานวันเข้าความคิดถึงมันส่งผ่านไปไม่หมด จนวันที่ทั้งคู่นัดเจอกัน
ทากากิตัดสินใจเขียนจดหมายใส่ในกระเป๋าเสื้อคลุม หวังเดินทางขึ้นรถไฟไปหาอาการิ
ในวันที่หิมะตกลงมาอย่างหนัก รถไฟค่อยๆขยับตัวไปบนราง ทำให้การเดินทางล่าช้า
จากนาทีเป็นชั่วโมง
เนิ่นนานเขาติดอยู่บนรถไฟ กว่าจะไปถึงปลายทางที่เธอรออยู่
เขาก็ถอดใจ สถานีไร้เงาผู้คนเป็นเวลากว่าเที่ยงคืน แต่เธอยังรออยู่
ผล็อยหลับไปบนเก้าอี้ นายสถานีนั่งทำงานอยู่ข้างๆเธอ เธอลืมตาขึ้นจับมือทากากิไว้แล้วน้ำตาก็ร่วงหล่น
คืนนั้นทั้งคู่แลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน เธอฝากจุมพิตไว้ให้เขา
จุดเริ่มต้นของสัญญารัก ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนบัดนี้ หัวใจของเขาเป็นของเธอแล้ว
จากวันนั้นผ่านไป เขาย้ายมาเข้าโรงเรียนมัธยมปลายในอีกจังหวัดหนึ่ง
การติดต่อระหว่างเขากับอาการิห่างหายไป
แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อผู้หญิงคนนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ที่นี่ทากากิรู้จักกับหญิงสาวอีกคน สุมิตะ เธอเฝ้าเพียรพยายามที่จะเอาชนะใจของเขา
แต่เธอไม่รู้เลยว่าหัวใจของทากากิไม่อาจรักใครได้อีกแล้ว
ทุกเย็นสุมิตะจะทำให้การพบเจอระหว่างเธอกับเขาดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ
เธอสังเกตเห็นบ่อยๆว่าทากากิมักจะหยิบมือถืออกมาพิมพ์ข้อความส่งถึงใครบางคน
แต่เธอผู้ซึ่งไม่เคยทำอะไรให้ตัวเองภาคภูมิใจยังคงหวังว่าเธอจะเอาชนะใครอีกคนที่อยู่ในโทรศัพท์ของทากากิได้
ช่วงมัธยมปลายทางแยกของชีวิต
หลายสิ่งจะไม่เหมือนเดิมอนาคตขึ้นอยู่กับการเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
ในวันที่เธอสามารถยืนบนซอฟบอร์ดได้นั้น สุมิตะ
ก็ตัดสินใจจะสารภาพความในใจกับทากากิ
เย็นนั้นรถเธอเสียทากากิจึงอาสาเดินไปส่งเธอที่บ้าน เธอแน่ใจแล้วว่ายังไง ทากากิ
ก็เป็นได้แค่เพื่อนยิ่งเข้าใกล้ระยะห่างระหว่างใจยิ่งไกลขึ้น
พลันจรวดก็ถูกส่งขึ้นไปยังฟากฟ้าไกลทั้งคู่มองตามไปยังลูกไฟดวงยักษ์นั้น
ควันที่ถูกปล่อยออกมาแบ่งท้องฟ้าออกเป็นสองฝั่ง เหมือนเธอและเขา
ชีวิตของทากากิ จากภายนอกหลายคนคิดว่าเขาเพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งอย่าง
แต่เขารู้ตัวดี รอยจูบนั้นทำให้เขาถูกพันธนาการไว้ด้วยความรัก
เขาลองคบหาดูใจกับใครหลายคนแต่ก็ไม่มีผลต่อความรู้สึก หลายคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
เขายังคงโดดเดี่ยว
เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง
กระจกบานนั้นสะท้อนภาพของชายที่น่าสงสารคนนหนึ่งยามเขามองเข้าไป
ทากากิกลับไปยังสถานที่แรกเริ่ม
ต้นซากุระต้นที่ขึ้นอยู่ริมถนนซึ่งมีรางรถไปตัดผ่าน
เขาเดินข้ามทางนั้นพลันก็พบกับเธอใช่แล้วใช่เธอแน่ อาการิ ทั้งคู่สบตากัน
‘เขาตัดสินใจแล้วว่า พอรถไฟขบวนนี้วิ่งผ่านไป เขาจะก้าวต่อไปข้างหน้า’
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเรื่องราวความรักถึงปรากฏอยู่ในหนัง นิยาย
บทเพลง ภาพวาด เพราะความรักไม่เคยเป็นเรื่องเก่า ทุกยุคทุกสมัยผู้คนต่างมีความรัก
เป็นรูปแบบพลังงานที่งดงาม
“ความรู้สึกดีๆที่คนสองคนมีให้ต่อกัน” นิยามที่ผมถามจากครู
วันนี้ผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ว่ามันถูกต้องหรือเปล่า
ถ้ารักที่เรามอบให้ใครคนนหนึ่งโดยไม่ต้องการอะไร เธอคนนั้นอาจไม่มีใจตรงกับเรา
ความรู้สึกนั้น ส่งไปไม่ถึง มันยังเรียกว่าความรักได้อยู่หรือเปล่า
ใครก็ตามที่ได้ดู ได้อ่าน เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘5 Centimeter
Per Second’ นี่แล้วจะต้องเกิดความรู้สึกเช่นที่เรารู้สึก
ใครที่รู้สึกเช่นนั้นลองหาผลงานของ ‘มาโคโตะ ซินไค’ แล้วคุณจะหลงรักเขามากยิ่งขึ้น พร้อมกับกลิ่นไอรักครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น