เรามีโอกาสได้ดูก็เมื่อวันก่อนและตัดสินใจว่าจะเขียนถึงหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ในแง่การวิจารณ์ เราไม่เก่งและไม่อาจเอื้อมขนาดนั้นแต่ขอจะพูดถึงมันในฐานะ ตัวแปร หนึ่งที่ทำให้เราได้คิดเรื่องคิดราวต่างๆ เกี่ยวกับ "โรคจิต"
หากมองอย่างเป็นกลางแล้ว ทุกคนต่างก็ โรคจิต ด้วยกันทั้งนั้น
เธอต้องสระผมก่อนอาบน้ำ
เขาชอบสั่นขาเวลานั่งเก้าอี้
เธอชอบเลียริมฝีปากก่อนที่จะพูด
เขาจะไม่เลียไอติมแต่ชอบกัด
เธอต้องซื้อของครั้งละมากกว่าหนึ่งชิ้น
เขาจะซื้อเฉพาะสินค้าราคาแพงที่สุดเท่านั้น
ใครๆก็โรคจิตด้วยกันทั้งนั้น ผมเองก็มีเรื่องโรคจิต เรื่องมากจนบางทีหวั่นวิตกไปว่าตัวเองอาจถึงขั้นบ้า ต้อหาจิตแพทย์ประจำตัวเข้าให้แล้ว
เมื่อมีอาการแปลกๆ จนเริ่มคิดว่า ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แนวทางง่ายๆในการตรวจสอบคือมีอาการจิตหลอนไหม มีความคิดที่ผิดบ้าคลั่ง ฝังอยู่ในหัวรึเปล่า พฤติกรรม เปลี่ยนแปลงไปไหม หากเราหรือคนรอบข้างส่อแววก็ควรระมัดระวังไว้ เราคงไม่อยากกลายเป็นดาราจำเป็นในหนังสยองขวัญ ใช่ไหมล่ะ
สาเหตุแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดาวร้ายมากมายในโลกภาพยนตร์ ก็ทำให้เราตระหนักในข้อนี้ดี อย่าง Joker,Gollum,Hannibal ที่ขึ้นชื่อในเรื่องร้าย แต่ที่ผมหลงรักมากในเวลานี้คือ Norman Bates ผู้ชายคนนี้ ใครจะเชื่อว่าคือฆาตกรสองบุคลิก ใครๆอาจจะหวาดกลัว แต่เรากลับรู้สึกสงสาร เวทนากับชะตากรรมของตัวละครรายนี้
ขอพ่วงพูดถึงหน่อยคือ หมอสุธี จากหนังเรื่อง บอดี้ ศพ 19 ที่เล่นเอาเราถึงกับตกเก้าอี้เลย เมื่อบทสรุปเฉลยออกมา หมอโรคจิต ป่วยเป็นโรคจิต เล่นแบบนี้เลยเรอะ
พฤติกรรมสุ่มเสื่ยง ควรได้รับการจับตามอง ในขณะที่เราเสพข่าว ดูหนัง ฟังเพลง ตัวแปรเหล่านั้นอาจกำลังถูกฝังลงไปในใจเราทีละนิดๆ หวังว่าเราคงไม่ดูหนังจนเป็นบ้า หรือถ้าจะบ้าจริงๆ คิดกันไหมบางทีคนที่สร้างหนัง ทำเพลงเขียนข่าวให้เราอ่าน อาจเป็นโรคจิตก็ได้ คล้ายไวรัส ที่กระจายผ่านสื่อ
หรือใครจะเถียงล่ะว่า Alfred Hitchcock น่ะ ลุงแกไม่ได้บ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น