"I don't want to survive, I want to live"
จริงๆคือไม่ได้อยากดุหนังเรื่องนี้เท่าไหร่ รู้ว่ามันดี และโกยรางวัลมากมาย ซึ่งตัวผมชอบดูหนังรางวัลอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงนี้เจอมรสุมชีวิตหนักๆ หนักมากๆ จึงเปลี่ยนไปดูแนวหนังโทนสว่างๆ เชื่อสิถ้าชีวิตคุณเจอแต่เรื่องแย่ๆคุณก็ไม่อยากจะดูหนังดราม่าหนักๆหรอก คุณจะโหยหาหนังที่มันโลกสวย ใสๆไปจนถึงโกหก หลอกลวง จอมปลอม แต่ยังไงก็ยังไม่อยากพลาดเรื่องนี้แม้จะคาดเดาไว้แล้วว่าเมื่อดูจบต้องหดหู่มากแน่ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆนะ คือความรู้สึกมันอึดอัดมาก
Steve McQueen ผู้กำกับรายนี้ผมเคยดูเรื่องก่อนหน้าเพียงเรื่องเดียวคือ Shame และผมชอบมันมากทีเดียว เพราะหนังมันไม่เบามือเลย คือไม่สนหรือแคร์คนดูเลยว่าจะรู้สึกยังไง ครั้งนี้ใน 12 Years a Slave ยิ่งไปกันใหญ่ คือมันหนักมาก หนักอึ้งเลย ไม่มีช่วงไหนของหนังที่ทำให้เราผ่อนคลายตลอดทั้งความยาว 134 นาที ยิ่งหนังสร้างจากเรื่องจริง มันยิ่งทำให้ถูกดูดเข้าไปร่วมในชะตากรรมนั้นๆกับตัวละคร
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของหนังที่ดี แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีจุดพลาดซะทีเดียว มันยังมีบางสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันหล่นหายไป หรือไม่ค่อยเมคเซ้น แต่หากมองในความเป็นจริงทุกวันนี้ เราหวังว่าจะขอให้มีใครสักคนเป็นฮีโร่ลุกขึ้นมาต่อต้าน ยื่นมือมาเพื่อช่วยเหลือเรา แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่เลย มีเพียงแต่ตัวเราเท่านั้นที่ต้องเอาชีวิตให้รอดจากเหตุการณ์ร้ายๆ เพราะนี่คือชีวิตจริงๆ ไม่มีใครกล้าเอาชีวิตทั้งชีวิตไปเสี่ยง Solomon Northup ศูนย์กลางของเรื่องไม่ได้พยายามทำตัวเป็นฮีโร่ เป็นวีรบุรุษเขาแค่ใช้ชีวิตไปตามเท่าที่มันจะเอื้ออำนวย แม้ในตอนท้ายเขาจะรอดพ้นจากช่วงเวลาที่แสนลำบากไปได้ แต่คนอื่นๆที่เหลือ ยังคงก้มหน้าทำกรรม ไม่สิมันไม่ใช่กรรม หากแต่เป็นการละเมิดในสอทธิมนุษยธรรมอย่างรุนแรง เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เขาแค่เกิดมามีสีผิวไม่เหมือนกันกับเราๆเท่านั้น
เป็นเรื่องปกติที่มนุษยเรามักจะชอบดูถูก รังแก ข่มเหงคนที่ด้อยกว่าเสมอ ผู้ชายทำร้ายผู้หญิง คนขาวทำร้ายคนดำ เด็กถูกรังแกจากผู้ใหญ่ เพศที่สามถูกสังคมรังเกียจ คนติดยาถูกตีตรา คนไร้การศึกษาถูกตีค่าว่าไม่มีความสามารถเพียงพอจะตัดสินใจในการบางสิ่ง ไม่รู้ว่าทำไมแต่ดูเหมือนลึกๆแล้ว มนุษย์อย่างเราๆจะชอบเหลือเกิน
นี่เป็นอีกหนึ่งหนังที่ดีมากๆในรอบปี ที่ควรค่าแก่การรับชม
#นักแสดงทุกคนที่อยู่ในหนังเรื่องนี้เยี่ยมมาก โดยเฉพาะ Michael Fassbender คือพี่แก หลุด มากจริงๆ เป็นตัวละครดาวร้ายอีกตัวที่น่าจดจำ
#Score หนังมันทำให้เวลาดูรู้สึกหดหู่ไปอีกราวๆสิบเท่า เลยล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น