วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Bitter Sweet :หวานขม รสชาติที่ลงตัว



วันก่อนผมเดินไปร้านB2S ที่บ้านเกิด แล้วเห็นว่าพนักงานนำสินค้า repriceมากองรวมๆกันไว้ ซึ่งราคาก็ถูกมากจนน่าใจหาย เพราะสิ่งที่กองอยู่นั้น ในความเป็นจริงมันไม่ใช่สิ่งของซะทีเดียว หากมองให้ดีถึงสิ่งที่อยู่ภายในมันคืองานศิลปะ แต่ก็อย่างว่าในยุคที่ทุกอย่างเป็นดิจิตอล สิ่งเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะเริ่มตกยุคไปทีละน้อย ผมเดินไปสำรวจดูตรงแผง New release ก็เห็นแผ่น GTH Side Stories วางขายอยู่ ก็ไม่ลังเลใจที่จะหยิบมา เพราะผมเวลาของผมมักไม่ตรงกับที่ออนแอร์ทางช่อง Play ครั้นจะกวาดหาทาง You Tube ก็เป็นการยาก และอีกอย่างเจ้า GTH Side Stories ก็ไม่ได้แพงจนไม่สามารถซื้อมาเก็บไว้ได้จึงเก็บมาอีกกหนึ่ง ก่อนจะลองไปคุ้ยๆดูตรงบู้ทลดราคา พลันก็ไปเห็น DVD BitterSweet BoydPod หวานขม ซึ่งผมจำได้ลางๆว่ามันออกมาให้ยลโฉมเมื่อตอนผมยังเรียนอยู่มอหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผมคงไม่มีกะใจจะหยิบมาดูเป็นแน่ แม้จะชื่นชอบเพลง รักคุณเข้าอีกแล้ว มากเรียกได้ว่าฮัมเพลงนี้อยู่เป็นเดือน เมื่อเหนว่าราคามัน reprice แค่ 39 บาท  ก็เลยซื้อมาดู เครดิตผู้กำกับนี้ โอ้โห บารมีเพียบ ในใจก็คิดว่า ถ้ามันจะดูอึนๆ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ไม่รู็สึกเสียดายเท่าไหร่ แต่แล้วพี่ๆผู้กำกับ GTH ก็ไม่เคยทำให้ผมเข้าใกล้ความรู้สึกที่ว่า "ผิดหวัง" เลยสักครั้งเดียว เพราะหนังสั้นที่ถูกบรรจุอัดแน่นอยู่ในนั้น มันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย บางเรื่องก็อบอุ่น บางเรื่องเหน็บหนาว บางเรื่องปวดร้าว บางเรื่องเต็มไปด้วยความสุข ตรงกับคำที่ใช้เป็นชื่อเรื่อง "หวานขม"



สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้อาจดูสับสน ปนเป ทั้งสรรพนามที่ใช้เรียกผู้กำกับ รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆ เพราะผมแค่ร็สึกว่า ผมโตมาพร้อมกับ “ยุคแฟนฉัน” และนั่นทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับผลงานของผู้กำกับ รวมทั้งค่าย GTH แม้ว่า หวานขม จะไม่ไอยู่ในค่าย GTH ก็ตาม


Directed By วิทยา ทองอยู่ยง
ขออนุญาตเรียกผู้กำกับว่า พี่บอล ตามชื่อเล่น(รวมทั้งท่านอื่นๆด้วย)   พี่บอลนั้นมีลายเซ็นอย่างหนึ่งที่มักปรากฏในผลงานของเขาคือ ความรัก ความอบอุ่น ที่คิดถึงวันวานในอดีตอย่างหนังใหญ่เรื่อง เก๋า เก๋า ก็เป็นเรื่องของวงดนตรีที่ต้องพิสูจน์ความเป็นอมตะของเขาผ่านเรื่องราวเหนือจริง รวมทั้ง บ้านฉัน ตลไว้ก่อน ซึ่งกำกับร่วมกับ เมษ-ธราธร ซึ่งเป็นผู้กำกับ ATM ในภายหลัง ก็ยังคงให้ความรู้สึกอบอุ่นละมุน ละไม และผมรู้สึกว่า มันน่าหลงใหล
รักคุณเข้าอีกแล้ว เป็นเรื่องราวของเด็กชายน่าตาไม่ดี เสียงไม่เพราะ บุคลิกดูเพี้ยนๆ ที่บังเอิญไปตกหลุมรักเพื่อนนักเรียนหญิงร่วมห้อง เด็กชายจึงได้ไปถามพ่อและพี่ชาย ถึงการทำให้ใครสักคนรักเรา เรื่องราวง่ายๆ ถ่ายทอดออกมาด้วยบรรยากาศอบอุ่นๆ
        บทเรียน เด็กวัยรุ่นที่หลงใหลในหนังไทย เขาชอบดูหนังไทยเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งหนังไทยเก่าๆด้วยแล้ว ของโปรด เลยล่ะ การที่เขาได้ทำงานในโรงภาพยนตร์ก็ทำให้เขาได้มีโอกาสใกล้ชิดกับสิ่งที่เขารัก และดาราคนโปรดของเขาก็คือ จินตรา สุขพัฒน์ แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับดาราคนโปรดของเขา


Directed By คมกฤษ ตรีวิมล
        คุณ เอส ผู้กำกับคนเก่งที่ทำให้ เพื่อนสนิท เป็นอีกหนึ่งหนังไทยในตำนาน ที่ควรค่าแก่การรับชม ผมพบว่าทุกครั้งที่ดูผลงานของเขา มันจะมีความแตกต่างกันไป ตั้งแต่ เพื่อนสนิท สายลับ จับบ้านเล็ก ไปจนถึงละคร  ซิทคอม หรือหนังอย่าง หนูหิ่น ที่เขาทำมันก็โดดเก่นไปคนละทาง ที่ผมจะบอกก็คือ เขามีลูกเล่นเยอะ
ที่วันนี้ ความรักมันเกิดขึ้นได้ทุกที่และมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน หญิงสาวผู้ใช้ชีวิตไปกับการค้าประเวณี จนได้มาพบกับชายญี่ปุ่นวัยกลางคนที่ทำให้เธอได้เข้าใจถึงความรัก หนังถ่ายทอดมาด้วยบรรยากาศที่เรามักจะคุ้นๆ ที่เคยเห็นกันจากหนังของหว่อง คาไหว แม้อารมณ์หนังจะค่อนข้างหดหู่แต่ท้ายเรื่องหนังก็ได้มอบความสุขให้กับคนดู
        สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน รอยแผลในอดีต มันอาจจางหายไปตามกาลเวลา แต่เมื่อใดที่มันเกิดขึ้นในใจ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่มันก็ยังคงอยู่ เป้ กลับมายังบ้านเกิดอีกครั้ง เพื่อมาดูแลแม่ หลังการจากไปของพ่อ และเขาพบว่า ที่แห่งนี้เมื่อวันก่อนหรือวันนี้ ก็ยังคงเหมือนเดิมคล้ายกับว่า กาลเวลาได้หยุดนิ่ง และมันทำให้เขาคิดถึงความสัมพันธ์ของเขาและพ่อ ในวันที่เขายังเป็นเด็ก


Directed By นิธิวัฒน์ ธราธร
        สำหรับพี่ต้น ผมชอบผลงานของพี่มากๆโดยเฉพาะ Seasons Change มันให้ความรู้สึกที่อินเตอร์มากๆแต่ในขณะเดียวกันมันก็ดูคลาสสิคไปในตัว ผลงานต่อมาอย่าง หนีตาม กาลิเลโอ ก็ขโมยน้ำตาผมไปมากโขเลยทีเดียว มองไปข้างๆเพื่อนที่นั่งดูด้วยกันก็มีอาการไม่ต่างกัน ปีหน้าผลงานเรื่องใหม่ของพี่ต้น จะเข้าฉายแล้ว นี่ผมรอดูแบบสุดเลยนะ
เพื่อน ชายหนุ่มสามคนที่ร่วมหุ้นกันเปิดร้านเบเกอรี่ กระทั่งวันที่หนึ่งในสมาชิกต้องไปต่างประเทศ ทำให้ร้านเล็กๆนั้น ปิดตัวลงอย่างเงียบๆ คืนนั้นทั้งสามนั่งพูดคุยกันถึงเส้นทางชีวิตของแต่ละคน ค่ำคืนนั้นค่อยเลื่นผ่าน เมื่อรุ่งเช้ามาถึงทั้งสามอาจไม่ได้พบหน้ากันแต่มิตรภาพจะยังคงอยู่ โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบตอนนี้ เพราะรู้สึกว่า มันไม่ได้พยายามจะเกินตัว และเล่าออกมาได้งดงามและถวิลหาอดีต    คิดถึงเพื่อนน่ะครับ
        คำไม่กี่คำ ทุกคนต่างเคยรู้สึกอยากย้อนเวลากลับไป ในช่วงเวลานึง เพียงเพื่อจะกลับไปแก้ไขบางอย่างที่อาจเคยทำพลาดหรือไม่เคยทำ เช่นเดียวกับชายวัยกลางคนในเรื่อง เขาไม่ได้ทำบางอย่าง ทั้งที่เขาน่าจะทำ และนั่นทำให้เขาจดจำวันนั้นได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ เขาน่าจะบอกรัก เธอ ให้เธอคนนั้นได้รับรู้ความในใจที่เขามี วันนี้เขามีโอกาสอีกครั้ง ว่าแต่ว่า เขากล้าพอจะ พูดรึเปล่า?


Directed By อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม
อันที่จริงแล้ว หมากเตะ ไม่ใช่หนังที่แย่เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่มันมาผิดที่ ผิดเวลา ผมว่า พี่ปิ๊ง ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วกับ รถไฟฟ้า มาหานะเธอ ซึ่งเป็น หนึ่งในสิบ หนังไทยที่ผมชอบมากที่สุด มันดูลงตัวทั้งมุกตลก การลำดับเรื่องราวที่ดูลื่นไหล ไปจนถึงซีนเรียกน้ำตา เรื่อยมาถึง รักเจ็ดปี ผมวา พี่เป็นผู้กำกับที่มีเสน่ห์ มากเลยล่ะ ทั้งบุคลิกและผลงาน ของพี่เอง
น้องเอ๋ย เมื่อชายคนหนึ่งได้พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่เขารัก พฤติกรรมต่างๆที่เขาเคยทำอย่างเช่นตื่นสาย ผิดนัด เดินเออระเหยลอยชาย แวะนู่นนี่นั่น แต่เขาจะรู้ไหมว่า โอกาส ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองมันมีจำกัด หากเขายังคงเป็นอยู่แบบนี้ โอกาส ที่จะได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เขารักอาจไม่มีอีกต่อไป
        ? ช่วงเวลาที่เริ่มเข้าสู่ วัยรุ่น มันดูสับสนมากๆเลย ทั้งๆที่เราอายุเราก็เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่กลับรู้สึกไม่คุ้นชินกับโลกที่อยู่ รวมทั้งผู้คนที่อยู่รอบข้างไม่ว่าจะทั้งคนที่รัก เพื่อน พ่อแม่ เหมือนว่าทุกอย่างมันพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งตัวเราเองด้วย เด็กหนุ่มในเรื่องก็เช่นกัน เขาไม่รู้จะใช้ชีวิตไปในเส้นทางไหน ทั้งความคาดหวังจากตัวพ่อ การยอมรับจากเพื่อน ความผิดหวัง
        Yoo Hoo เมื่อความรักเกิดขึ้นกับนายตำรวจจราจรที่คอยให้ความเป็นระเบียบเรียบร้อยหน้าโรงเรียนประถม วันหนึ่งเขาก็ได้พบกับครูสาวคนสวย วันแล้ววันเล่า เขาเฝ้ามองแต่ไม่กล้าเอ่ยคำพูดใดๆออกมา จนกระทั่งวันปิดเทอมมาถึง เขาก็ยังเฝ้ารออยู่แบบนั้น เขาจะรู้ไหมว่าเม่อโรงเรียนเปิดเทอม เขาอาจไม่ได้พบกับ ครูสาว คนนั้น


Directed By ทรงยศ สุขมากอนันต์
หนังของพี่ย้ง มีพลังงานตัวสูงมาก ทั้ง เด็กหอ(ที่ทำให้ผมคลั่งอยากมีเพื่อนเป็นผีอยู่ช่วงนึง อารมณ์ประมาณ E.T.) มาปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น ก็ทำให้ผมฟินสุดๆ หนังผีในห้าแพร่งก็ดูมีเสน่ห์ไม่ใช่น้อย หรือ วัยรุ่นพันล้าน ที่บังเอิญโชคร้ายเข้าฉายพร้อมน้องน้ำแต่สุดท้ายหนังดีก็ยังคงดีอยู่วันยังค่ำ และล่าสุด ซีรี่ย์ ฮอร์โมน ที่ดังซะจนฉุดไม่อยู่ ถ้าไม่เก่งจริงคงทำไม่ได้หรอก 
เรื่องบ้าๆ  วันบางวันเรามักจะพบเจอแต่เรื่องแย่ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก บ่อยครั้งที่เราอ้อนวอนบอกคนบนฟ้าว่า พอแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว แต่เหมือนเป็นความสะใจปนซาดิสซ์  ยิ่งไม่อยากเจอเรากลับยิ่งเจออีกเรื่อยๆ เลยขอเอ่ยเรียกวันนั้นว่า วันแห่งความซวย เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับ หญิงสาว ในที่นี่คือ โอปอล์  ที่รถติดไปงานอีแว้นท์สายระหว่างอยู่ในรถนั้นก็ได้แต่งหน้าเปลี่ยนชุดเพื่อประหยัดเวลา แต่แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นบอกว่าขอ ยกเลิกงานนั้น เมื่อวางสายไป ก็บอกว่ายังไม่ยกเลิก เป็นแบบนั้นอยู่นานสองนาน เธอเลยตัดสินใจโยนมือถือทิ้ง แล้วขับรถคู่ใจออกไปยังสถานที่ที่เรียกว่า กระบี่ เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันใหม่ แต่แล้วระหว่างทางก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนโบกรถอยู่ ไม่รู้เพราะเหตุใดรู้ตัวอีกทีเด็กชายคนนั้นก็ได้มาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางครั้งนี้ ทั้งสองคนอาจมาจากคนละที่ ต่างเหตุผลของการหนี พวกเขาอาจไม่รู้ว่า การเดินทางเล็กๆครั้งนี้ จะเป็นความทรงจำดีๆ ที่อยู่ไปอีกนาน
คอย ในชีวิตเราต่างเคยตกอยู่ในช่งเวลานี้ ช่วงเวลาที่แสนยาวนาน การรอคอย บางครั้งผลลัพธ์จากการรอ อาจหอมหวาน แต่บางทีมันก็เป็นเพียงแค่การ รอเก้อ ชายหนุ่มคนหนึ่ง คอย เวลาเพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆหญิงสาวห้องข้างๆ อาจแค่พูดคุย ชวนไปทานข้าวหรืออะไรก็ตามแต่ เหตุผลนั้นไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเขา เพียงแต่เขาจะมี โอกาส



Directed By วิชชพัชร์ โกจิ๋ว
พี่เดียวที่ทิ้งงานกำกับไปหลังจากเสร็จสิ้นหนังเรื่อง แฟนฉัน แล้วหันไไปดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด และ กำกับดูแลงาน ด้านการตัดต่อภาพยนตร์ ตามที่ถนัดและชื่นชอบ
ช่วงที่ดีที่สุด ชายชราคนหนึ่งได้ขอช่วยเหลือจากที่แห่งหนึ่ง ให้ตามหาคนคนนึง ด้วยความคิดถึง ชายชรานั่งรอ คนนั้น ร่วมกับคนอื่นๆในห้องโถง ที่นั่นมีเด็กชายที่ตามหาพ่อและหญิงสาวที่มารอฝาแฝด เขานั่งรอจนกระทั่งเหลือเขาคนเดียวในห้อง แล้ว คนที่ชายชรารอพบก็ปรากฏตัวขึ้น ผมชอบตอนนี้ที่สุด ผมว่ามันดูลึกลับ ดูมีอะไร  miracle หน่อยๆ เป็นเหมือนช่องว่างของเวลาและความรู้สึก ที่รอให้เรามาเติมเต็ม
หวานขม ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ บางครั้งตอนจบก็สวยงาม บางครั้งก็ปวดร้าว แต่ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นสีสันให้กับชีวิต เรื่องราวหวานอมขมกลืน ที่บางครั้งทำให้เรายิ้มร่า หัวเราะร่วน หรือร้องไห้เบาๆไปจนถึงปล่อยโฮ วันหนึ่งที่เรามองย้อนกลับไป เราจะพบว่า มันมีค่า และสวยงาม เช่นเดียวกับตัวละครในทุกๆเรื่อง



และทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือ ความงดงามในหนังไทยและบทเพลงไทย ที่เราไม่ค่อยได้เห็นแต่ผมขอเตือนไว้ก่อนนะ บางเรื่องมันก็ค่อนข้างจะ abstract อยู่ไม่ใช่น้อย แต่ส่วนตัวแล้ว ประทับใจ ครับ

#บางส่วนอ้างอิงจากวิกิพีเดีย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น