วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Whiplash "เพื่อดาวดวงนั้น ที่ฝันที่อยากเป็น"

Whiplash     เพื่อดาวดวงนั้น ที่ฝันที่อยากเป็น

ไม่ว่าจะมองในมุมไหน Whiplash ย่อมเป็นหนังที่สมควรดู อีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ และ(ต้อง)มีบทบาทในเวทีปลายปีอย่างแน่นอน


เพียงตัวอย่างที่หนังปล่อยออกมายั่ว ก็ทำให้ผมกระสันที่จะดูหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่าคะแนน บวกคำชมที่หนังได้รับย่อมเป็นตัวเร้าชั้นดี และผลลัพธ์หลังจอปิดม่านลง ไม่ได้ทำให้ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเทใจให้หนังเรื่องนี้


ผมขอเรียก Whiplash ว่ามีสถานะไม่ต่างจาก Black Swan Version ผู้ชาย แม้ว่า Whiplash จะมีความโลกสวยอยู่มากกว่าก็ตามที เนื้อหาหนังก็ตรงๆตามที่ ตัวอย่าง บอกเอาไว้ คือการก้าวไปสู่ความฝันของนักเรียนดนตรีผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งถูกกดดันจากผู้คนรอบข้าง รวมทั้งตัวเขาเอง การไปสู่ฝันของเขายังต้องถูกทดสอบโดยอาจารย์ผู้ไม่สนใจอะไรนอกจาก ความสมบูรณ์แบบ แต่ระหว่างทางหนังมีลูกเล่นเยอะมากรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ สร้างโลกของตัวละคร Andrew ได้เข้าขั้นสมบูรณ์  และขณะที่หนังเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ เราจะเห็นถึง ความแตกต่างของตัวละครผู้นี้ และหนังก็ได้ซ่อนไม้ตายเอาไว้ ในองก์สุดท้ายของหนัง  และน่าจะทำให้หลายคนชื่นชมปนสมเพชตัวละครรายนี้ในเวลาเดียวกัน

ที่ต้องพูดถึง คือการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดระหว่างสองนักแสดงนำ Miles Teller ในบท Andrew นักดนตรีมือกลองผู้อ่อนโยน (ขอใช้คำนี้) กับครูสุดโหด Fletcher รับบทโดย J.K. Simmons นับว่าเป็นการแสดงที่ดีที่สุดของเขาเลยก็ว่าได้ หากไม่อินกับการไขว่คว้าความฝัน แค่ได้รับชมการแสดงอันล้ำค่าก็เกินค่าตั๋วไปแล้ว ยิ่งรู้ว่า Miles Teller เป็นนักดนตรีมือกลองจริงๆด้วยแล้ว(ไม่ใช่การใช้สแตนอินแล้วแปะหน้านักแสดงทับ) มันทำให้ ความน่าเชื่อถือ เพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว 



Whiplash เป็นหนังรางวัลปลายปี ที่สมควรดูในโรงภาพยนตร์ แล้วเสียงกลองในท่วงทำนอง Whiplash จะถูกฝังลงไปในหูอีกนานแสนนาน และมันจะทำให้หนังอย่าง Begin Again เป็นนิทานก่อนนอนสำหรับน้องหนูไปเลย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น